ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า

Burn-out Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน

เมื่อใครสักคนมีท่าทางหดหู่ ปลีกตัว หรือนิ่งเฉย เรามักนึกถึงโรคซึมเศร้าเป็นอันดับแรก คงมีไม่กี่คนจะคิดว่านี่เป็นเพียงภาวะหมดไฟในการทำงาน ซึ่งไม่ใช่โรคซึมเศร้า ภาวะหมดไฟในการทำงานแค่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน ไม่มีใจ หมดแรงที่จะทำงานต่อไป ซึ่งอาการจะส่งผลต่อร่างกายได้ เช่น นอนไม่หลับ กังวลใจทุกครั้งที่ต้องไปทำงาน รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน รวมถึงปวดเมื่อยร่างกาย ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะหมดไฟในการทำงาน สิ่งที่ต้องทำคือ เพิ่มทัศนคติด้านบวกให้กับตนเอง หยุดพักเพื่อจัดการความเครียด ออกกำลังกาย มองหาแรงบัลดาลใจ และปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น จัดโต๊ะใหม่ ปรับความสมดุลในชีวิต แยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจน หรือถ้ารับมือไม่ไหวก็ควรพบจิตแพทย์เพื่อบำบัดอาการทางกายและใจ เพื่อป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้าที่อาจเกิดตามมาได้

รับมือกับภาวะหมดไฟก่อนที่สุขภาพร่างกายและจิตใจจะทรุดโทรมไปมากกว่านี้


สารบัญ : Burn-out Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน

    • เพราะภาระงานหรือบรรยากาศการทำงาน
    • แท่งงานและสิ่งแวดล้อม
    • แท่งงานและการจัดลำดับความสำคัญ
    • แท่งงานและ Executive Function (EF)
    • บรรยากาศการทำงานและอำนาจ
    • บรรยากาศการทำงานและการแบ่งชั้นวรรณะ

เนื้อหาปกหลัง : Burn-out Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน

ภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นกลุ่มอาการที่เป็นผลรวมจากความเครียดเรื้อรังในที่ทำงานที่ไม่สามารถจัดการให้ลุล่วงได้มีลักษณะ 3 ประการ

  1. มีความรู้สึกหมดพลังหรือหมดสิ้นเรี่ยวแรง
  2. ไม่รู้สึกรู้สากับงานมากขึ้น รู้สึกต่องานใหม่ในแง่ลบหรือต่อต้าน และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
  3. ตามประกาศขององค์กรการอนามัยโลกล่าสุดให้ใช้กับเรื่องงาน อาชีพ ไม่ใช่กับประสบการณ์ด้านอื่นของชีวิต

หากใครพบว่าตนเองกำลังมีภาวะเหล่านี้ ขอให้รีบนำร่างกาย จิตใจ สมอง และสติกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อให้อาการเบิร์น-เอ๊าต์หนีหายไป และไฟกลับมาลุกโชนพร้อมลุยงานใหม่ได้อีกครั้ง

เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาเซ็นทรัล รามอินทรา ออมทรัพย์
พูดคุย-สอบถาม